ในโลกยุคใหม่ คงไม่มีใครปฏิเสธว่าทุกวันนี้ ทุกอย่างล้วนง่ายดาย เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น เพราะทุกอย่าง ทุกเรื่องราว ที่เราทุกคนสนใจและอยากรู้ ก็อัปโหลดข้อมูลมาอยู่บนหน้าจอ บนฝ่ามือให้เราได้เห็นกันแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร ความบันเทิง ต่าง ๆ เกมส์ ภาพยนตร์ ซีรีส์ดังมากมายก็ล้วนสุดแสนง่ายดาย จบครบที่เดียวผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนกันเลย อย่างไรก็ดี จริงอยู่ที่ความเจริญของเทคโนโลยี จะเอื้อให้ผู้คนแทบทุกเพศ ทุกวัย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้รับความสะดวกสบาย
ทว่า ในมุมของผู้ปกครอง ก็อาจจะมีบ้างที่ก็คงจะทำให้อดกังวลไม่ได้ว่าเด็ก ๆ หรือ ลูก ๆ ของเรา จะห่างเหินหรือละเลยจากกิจกรรมที่จะพัฒนา ทักษะต่างๆ ในช่วงวัยของเด็ก แต่ละคนหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าอนาคตเด็ก ๆ เจนยุคสมัยนี้ ความสนุกของพวกเขา และ เพื่อนๆ ส่วนใหญ่จะเจอกันบนหน้าจอ รวมทั้งสนทนาพูดคุยผ่านโลกออนไลน์ เรียกว่าแทบจะตลอดเวลากันเลย
แต่นั่นก็เป็นยุคของเขา ที่ก็เป็นเรื่องดี หากมองเทคโนโลยีให้เป็นเหรียญสองด้าน เพราะทุกวันนี้โลกหมุนไปไวเหลือเกิน ทั้งในแง่ของการไขว่คว้าหาข้อมูล ดังนั้นหากใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกวิธี ก็จะเป็นประโยชน์ในการต่อยอดนำพาให้เด็กๆ ได้เกิดการเรียนรู้ ตลอดชีวิต
ขณะเดียวกัน จากความก้าวหน้าของโลกไอที ทำให้ผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง หลายๆ คนในปัจจุบัน เมื่อนึกย้อนกลับไปครั้งวัยเยาว์กิจกรรมความสนุกของเด็ก ๆ การเล่นสวนสนุก สนามเด็กเล่น นั้นเปรียบเป็นพื้นที่ให้เด็ก ๆ ทุกคนได้ปลดปล่อย พลังการเล่นแบบเต็มพิกัด ทั้งการเล่นลูกข่าง , กระโดดเชือก , กระต่ายขาเดียว เรื่อยไปจนถึงการเล่นสวนสนุก ชิงช้าสวรรค์ , ม้าหมุน , เครื่องเล่นต่างๆ และ รถบั๊ม เป็นต้น
ดังนั้น คุณครูโรงเรียนปลูกปัญญา นครราชสีมา เล็งเห็นความสำคัญตรงนี้ จึงร่วมกันจัดกิจกรรมเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ห้องราชพฤกษ์ และห้องกัลปพฤกษ์ ได้โชว์ฝีมือออกไอเดียสร้างสรรค์สนามเด็กเล่น สวนสนุก ตามจินตนาการของนักเรียนทุกคนได้แบบไร้ขีดจำกัดแบบ No Limit ภายใต้ธีม FAIR GROUND
ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นหนึ่งในแนวทางการการเรียน การสอนวิชาการบูรณาการ Theme – Based Learning ที่คุณครูมุ่งหวังให้นักเรียนได้เรียนรู้ และนำความรู้ที่ได้มาจากวิชาแขนงต่าง ๆ ผสมผสานทักษะ (Skills) และความสามารถ ความถนัด ความชอบ ความสนใจของแต่ละคน ผลิตออกมาเป็นชิ้นงาน
โดยนักเรียนกว่า 30 คน นอกจากจะได้โชว์ไอเดียทำของเล่น ออกแบบดีไซน์สวนสนุกในฝันกันแล้ว ครั้งนี้ คุณครูยังเปิดให้ผู้ปกครอง ร่วมทำ Project คิดวางแผนร่วมกับนักเรียน เป็นระยะเวลา 1 เดือน ตลอดจนกิจกรรมบรรลุเป้าหมาย ผลงานปรากฏสู่สายตาของคุณครู และ เพื่อนๆ นักเรียน ที่เฝ้ารอชมอยู่บริเวณพื้นที่ภายในโรงเรียน Plookpanya School รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่อันรื่นรมณ์
กระทั่งเมื่อถึงช่วงเวลาที่นักเรียนต่างผลัดกันออกมาพรีเซนต์ ที่ต่างใจจดใจจ่อรอชมของเล่นของเพื่อนๆ แต่ละคนว่าหน้าตาจะออกมาเป็นแบบไหน ? ทำเอาคุณครู และเพื่อน ๆ ต่างฮือฮา ตื่นตาตื่นใจ กับไอเดียของเล่นเพื่อน ๆ กันมากทีเดียว
เพราะบอกเลยว่าของเล่นที่นำมาโชว์นั้น เป็นของเล่นที่เปี่ยมด้วยจินตนาการ แบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น ชิงช้าสวรรค์ , ม้าหมุน , เครื่องเล่นหมุนผาดโผน และ เรือไวกิ้ง ที่แม้ชื่อของเล่นอาจจะคุ้นหู คุ้นตา แต่นักเรียนก็ได้มีการประยุกต์ ที่ใช้พลังงานมอเตอร์ผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ จากแผงโซล่าเซลล์ และพลังไฟจากแบตเตอรี่ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมี รถบั๊ม ที่นักเรียนไอเดียบรรเจิดดัดแปลงจากรถบั๊ม เป็นเรือบั๊ม สไลเดอร์รถแข่ง และอุโมงค์ลอด ที่จำลองสวนสนุกของจริงมาได้แบบใกล้เคียง แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่คุณครุต้องการและมุ่งหวังอยากเห็นก็คงจะเป็นเรื่องของความรู้ความเข้าใจของนักเรียนทุกคน ต่อผลงานของเล่นที่ผลิตออกมาว่ามีเหตุผล และที่มาที่ไปอย่างไร เป็นสำคัญ
ซึ่งก็สะท้อนผ่านการตอบคำถามของเพื่อน ๆ และคุณครู ที่นักเรียนทุกคนล้วนทำได้ดี เพราะตลอดการนำเสนอผลงานนักเรียนมีการอธิบายเหตุผลการสร้างของเล่นแต่ละชิ้น อย่างละเอียด เช่นเรื่องการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นไม้ , โลหะ , พลาสติก และวัสดุต่าง ๆ เป็นต้น
ยกตัวอย่าง คำถามของครู ที่ถามนักเรียนว่าทำไมของเล่นชิ้นนี้ สไลเดอร์แบบท่อ ทำไมคนเล่นถึงไม่ต้องใช้น้ำ ทั้งๆ ที่น้ำ เป็นปัจจัย ที่ทำให้คนที่เล่นสไลเดอร์ นั้นลื่นไหล ลงมา ? ก่อนที่นักเรียนจะตอบว่าสไลเดอร์ นี้ไม่ต้องใช้น้ำ อาจนำวัตถุอื่นๆ มาวางไว้ให้คนขึ้นนั่งก่อนจะสไลด์ตัวลง มาเช่นกระดานสเก็ตบอร์ด
รวมถึงคำถามที่ว่าหากคนติดอยู่ในท่อสไลเดอร์ จะทำอย่างไร ซึ่งคุณครูก็แนะนำไปว่าอาจกำหนดให้ผู้เล่นใช้วิธีเคาะ หรือปุ่มกดสัญญาณแจ้งเตือน ฉุกเฉินเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าผลงานของนักเรียนแต่ละคน ย่อมมีจุดเด่นต่างกันไป ในส่วนนี้ทางคุณครูระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนปลูกปัญญา นครราชสีมา ก็จะคอยให้คำแนะนำเสริมข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางให้กับนักเรียน ได้ต่อยอดไอเดียสร้างสรรค์ประยุกต์ ประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ต่อไป
จากกิจกรรมนี้คุณครู ยืนยันว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นน่า เป็นสิ่งที่คุณครูประทับใจและภูมิใจในตัวนักเรียนทุกคนมาก ๆ ที่โจทย์ให้นักเรียนไปมีความเข้าใจในการผลิตชิ้นงานได้เป็นอย่างดี และนักเรียนมีการรังสรรค์โปรเจคท์ทำของเล่นด้วยตัวเอง โดยมีผู้ปกครองให้คำแนะนำปรึกษาเท่านั้น
และอีกเรื่องสำคัญที่ครูมุ่งหวัง ของกิจกรรมนี้คือการที่ ผู้ปกครอง และนักเรียน ยังจะได้เห็นศักยภาพของตัวเอง ที่เปรียบดุจแสงสปอตไลท์ส่องฉายให้แนวทางอนาคตของนักเรียน ในการก้าวต่อไปในสายวิชาการ และอาชีพ จากความชอบ ความสนุกกิจกรรม FAIR GROUND เปิดโลกจินตนาการ สรรค์สร้างของเล่น ครั้งนี้ ก็เป็นได้
In the contemporary era, the accessibility of information and entertainment with a simple touch on a digital device is widely acknowledged. However, this convenience has raised concerns among parents who fear that their children may be dedicating excessive time to screens rather than honing essential skills. The digital age has reshaped how children seek entertainment and social interaction, primarily through online platforms.
In the contemporary era, the accessibility of information and entertainment with a simple touch on a digital device is widely acknowledged. However, some parents still worry that their kids spend too much time on screens instead of learning important skills. Kids these days often enjoy entertainment and talk with friends, primarily through online platforms.
But there’s a good side too. Technology, when used wisely, can help kids learn. It possesses the capacity to facilitate the cultivation of critical thinking, problem-solving, and creativity skills in children.
At Plookpanya School, we know how important play and creativity are for kids. Recently, the school organized an event tailored for fifth-grade students to create their own amusement parks, calling it “FAIR GROUND.”
During this event, students got to use their imaginations and different materials to build their dream amusement parks. For a whole month, they worked hard with their parents and teachers, learning about engineering, design, and construction.
On the day of the presentation, students proudly showed their creations to parents, teachers, and friends. The results were so amazing.
They made lots of cool rides like roller coasters, carousels, bumper cars, and water slides. They even used cool things like solar panels and batteries for energy.
Teachers were impressed not only by the diversity of the creations but also by the students’ demonstrated creativity and problem-solving skills. The event was a success, blending fun and learning. It gave students a chance to develop and show off their talents.
Teachers hope the event inspires students to keep exploring their interests, especially in STEM fields. They believe “FAIR GROUND” shows how play can be a strong tool for learning and growing.
Here are some cool things students made:
A roller coaster powered by solar panels.
A water slide with a conveyor belt to take riders to the top.
A bumper car controlled with a smartphone app.
These projects showed that students thought things through, understood engineering, and were committed to being creative.
In summary, the “FAIR GROUND” event was an enriching experience for students, parents, and teachers alike. It stands as a shining illustration of the transformative power of play in fostering learning and development.
“วิถีปลูกปัญญา” ประสบการณ์การเรียนรู้ที่แตกต่าง
“𝐒𝐄𝐋𝐅-𝐃𝐈𝐒𝐂𝐎𝐕𝐄𝐑𝐈𝐍𝐆 𝐈𝐒 𝐓𝐇𝐄 𝐁𝐄𝐆𝐈𝐍𝐍𝐈𝐍𝐆 𝐎𝐅 𝐓𝐑𝐔𝐄 𝐖𝐈𝐒𝐃𝐎𝐌”
“แลนด์มาร์คแห่งการเรียนรู้และค้นพบตัวเอง”
📞โทรศัพท์ 044-927-111
💻 📲เว็บไซต์ www.plookpanya.ac.th
✅ไลน์ (LINE) @plookpanya