รู้ตัวอีกที…

แต๊งค์-ธราดล

ก็หลงรักบรรดาแคคตัสจนหมดใจ

แม้จะบอกว่าทำเป็นงานอดิเรก แต่เมื่อได้ทำสิ่งที่หลงไหลอย่างเต็มที่ โดยไม่คิดถึงปลายทาง

ผลลัพธ์ที่ได้… มักเหนือความคาดหมายเสมอ รู้ตัวอีกที… แต๊งค์ ธราดล พานประทีป

ก็หลงรักบรรดาแคคตัสจนหมดหัวใจ

 

กลุ่มแคคตัสต้นจิ๋ว… เพื่อนใหม่ที่รู้จักกันเมื่อตอนทำ โครงงานป.6 และกลายเป็นเพื่อนสนิทจนถึงปัจจุบัน

 

“แต๊งค์” ธราดล พานประทีป ต้นกล้าที่ถูกบ่มเพาะและปลูกฝังวิถีปลูกปัญญามาตั้งแต่ปฐมวัย

จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีสถานะเป็นศิษย์เก่าจากรั้วปลูกปัญญา รุ่น#3 

ปัจจุบันศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์

แต๊งค์ เผยความหลังอันแสนประทับใจให้ฟังว่า….

 

“จริงๆจุดเริ่มต้น อยู่ช่วงประมาณประถมปลาย (น่าจะป.4) อากงพาผมไปงานเกษตรที่ขายต้นไม้และอุปกรณ์ทำสวนต่างๆ ปกติผมเป็นคนชอบต้นไม้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยเลี้ยงเลย แต่วันนั้น ไปเจอต้นกระบองเพชรต้นเล็กๆราคา25บาท เห็นว่ามันมีความ หลากหลายและน่ารักดีเลยให้อากงซื้อให้ ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้น ที่ผมได้รู้จักกับเจ้ากระบองเพชร แล้วก็เริ่มเก็บสะสมมาเรื่อยๆ ได้มาจากหลายที่ จนผมมีแคคตัสประมาณ 40-50 ต้นเล็กๆ และเมื่อเรียนชั้นป.6 ที่โรงเรียนให้ทำโครงงาน ผมก็ไม่รู้ว่าจะ เลือกทำโครงงานอะไรดี (เพราะเอาจริงๆผมเป็นคนไม่ได้เรื่อง อะไรเลยตั้งแต่เด็กๆ) ผมก็นั่งคิดไปคิดมาอยู่นานที่ระเบียงบ้าน แล้วตาก็มองไปเห็นพวกต้นกระบองเพชรเล็กๆที่วางเรียงอยู่ ผมก็เกิดความคิดขึ้นมาทันทีว่า เอาโครงงานเรื่องนี้ก็ได้วะ!!”

 

แล้วผมก็ได้ทำ”โครงงานกระบองเพชร” มีครูเอ๋เป็นที่ปรึกษา ซึ่งพาผมไปตระเวนเก็บข้อมูลตามสวนต่างๆในโคราช และได้ ทำงานวิจัย เรื่อง การเลี้ยงแคคตัสด้วยดินต่างๆหลายชนิด โดยเอากระบองเพชรดาวล้อมเดือน (ที่เคยซื้อมาไว้แล้วแม่ด่า) มาทำการทดลอง(เพราะแยกได้เยอะ) ผลสรุปของโครงงานนี้ คือผมenjoyกับมันมาก และก็ได้การตอบรับที่ดีจากทุกๆคน ทั้งครูและเพื่อนๆ ผมยังได้เงินจากการขายแคคตัสครั้งแรก ประมาณ 1200~1700 บาท แต่ต้นทุนประมาณ 200 นิดๆ (กำไรจากไอเจ้าต้นเล็กๆที่แม่ด่าว่าซื้อมาทำไม…นั่นแหละครับ)

 

“เสน่ห์… ของแคคตัส คือ ความแปลกที่ไม่เหมือนพืชชนิดอื่น เพราะมันมีรูปร่าง หนาม และสีที่เป็นเอกลักษณ์”

 

“แคคตัสสอนให้ผมเข้าถึงคำว่า Passion และ ความตั้งใจ ผมคลั่งไคล้การสะสมให้ได้ความหลากหลาย และต้องการเห็น สิ่งใหม่ๆที่เกิดมาจากความพยายามของเรา มันยังสอนให้ผม รู้จักความอดทน เพราะแคคตัสอยู่ในทรายที่แห้งและไม่มีฝน สามารถอดน้ำและดินได้เป็นเดือนๆโดยไม่ตาย ผมได้รู้จักการ ปรับตัวให้เข้ากลับสภาพแวดล้อม เหมือนดังแคคตัสที่ไม่มีใบ เพื่อลดการคายน้ำและต้องกักน้ำไว้ให้มากที่สุด สื่อให้เห็นว่า ในบางครั้ง เราก็ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมหรือ สถานการณ์ที่เราควบคุมอะไรไม่ได้ แคคตัสทำให้ผมมีความ พยายาม เพราะมันเป็นพืชที่มีพลังชีวิตสูงมาก เมื่อไม่มีแสง มันจะพยายามปรับลำต้นตัวเองให้ยืดออกไปยังพื้นที่ที่มีแสง นอกจากนั้นแล้ว ผมยังตระหนักในการใช้โอกาสอย่างคุ้มค่า เปรียบเหมือนผมเป็นแคคตัสต้นหนึ่งกลางทะเลทราย การที่ ฝนจะตกมันไม่ใช่อะไรที่เกิดขึ้นได้บ่อย เมื่อมันได้รับฝนมันจะ เก็บกักน้ำให้เยอะที่สุดไว้ในลำต้น ผมก็เช่นกัน ไม่ว่าโอกาสใด ที่ผ่านเข้ามา ผมจะรีบตักตวงและเรียนรู้จากมันให้มากที่สุด”

 

“ ผมจริงจังกับทุกงานอยู่แล้ว ดังนั้น ธุรกิจแรกของผม จะเป็นอะไรไม่ได้ นอกจาก สิ่งนี้…ที่ผมตั้งใจทำมาตลอด ”

 

ผมมีแผนว่าจะทำ ให้หลากหลาย (แคคตัส พืชอวบน้ำอื่นๆ และ จำหน่ายพวกอุปกรณ์ ดิน) จะทำให้เป็นทางการและใหญ่ขึ้น เริ่มมีออกงานแฟร์บ้าง เริ่มทำวิดีโอคลิปโปรโมท และฝันไกลไปถึงการส่งออก

 

บทเรียนล้ำค่าจากแคคตัส ที่ในตำราไม่ได้สอน…

 

” แคคตัสสอนผมว่า ไม่ว่าความชอบใดๆ… ถ้าใส่ใจทำสม่ำเสมอ ทุกอย่างจะออกมาดี อาจจะยากในช่วงแรกๆ แต่เราจะเห็นผลสักวัน แล้วโอกาสต่างๆจะเข้ามา ขอแค่มีความพยายาม อดทนและเรียนรู้มันไป “